ความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ประเทศปีนังมีให้เสนอถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในประเทศนี้ นั่งรถไฟเที่ยวปีนังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับทัศนียภาพและประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ในบทความนี้เราจะสำรวจรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟเพื่อเที่ยวปีนังเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน โดยมีงบประมาณที่คุณสามารถเขียนทรัพย์สิน 6,000 บาทเท่านั้น!

สารบัญ

ปีนัง: แนะนำเมืองสวรรค์แห่งการผจญภัย

นอกจากกรุงเทพมหานครที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ปีนังเป็นเมืองที่น่าสนใจและมีบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาล จากภูเขาสูงสลับกับทะเล ภูเขาปีนังยังมีความสวยงามที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองเก่าของปีนังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ สถานที่สำคัญอื่นๆ รวมถึงวัดสวยงามและวิหารเก่าที่มีความเชื่อมั่นอันแข็งแรง

เส้นทางการเดินทาง: การเดินทางด้วยรถไฟสู่ปีนัง

เริ่มการเดินทางของคุณโดยการนั่งรถไฟสายหาดใหญ่จากกรุงเทพมหานครไปยังปีนัง การเดินทางด้วยรถไฟเป็นทางเลือกที่สะดวกและคุ้มค่า คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามของท้องทะเลสาบและป่าธรรมชาติที่ยามเย็นลมพัดสบาย ทางรถไฟมีบริการตลอด 24 ชั่วโมงและสามารถเลือกสถานีลงที่ตามความสะดวกในการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้

ที่พัก: การเลือกที่พักที่คุ้มค่า

ในปีนังมีตัวเลือกที่พักมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมหรูพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จนถึงโฮสเทลและเกสต์เฮ้าส์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเดินทางที่เป็นกันเองและเรียบง่าย คุณสามารถเลือกที่พักตามงบประมาณและความสะดวกสบายที่คุณต้องการ เช่น การเลือกที่พักที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลักหรือเป็นทางเลือกที่ต่อเนื่องกับธรรมชาติ

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในปีนัง

เขาหงอนไฟ: ยอดเขาที่สูงที่สุดในปีนัง เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการเดินป่าและทะเลหมอกที่สวยงาม
วัดเจดีย์น้ำเงิน: วัดที่มีเอกลักษณ์และสวยงาม ภายในวัดมีพระเจ้าและพระธาตุสำคัญ
สวนสมุย: สวนที่เต็มไปด้วยสีสันและดอกไม้สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นและพักผ่อนในสวนได้อย่างสะดวกสบาย
น้ำตกห้วยกระดาน: น้ำตกที่มีความสวยงามและแสงสว่างที่สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่: ที่อยู่ของแอนต์เลอร์เดินป่าที่น่าตื่นเต้นและจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามของปีนัง

ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำในปีนัง

การปีนเขาที่สวยงาม: ในปีนังคุณสามารถเพลิดเพลินกับการปีนเขาที่สวยงาม และมองเห็นวิวที่น่าตื่นเต้น
การเล่นน้ำในทะเลสาบ: นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำในทะเลสาบที่สะอาดและเงียบสงบได้
การสำรวจวัดและวิหาร: มาร่วมสำรวจวัดและวิหารที่มีความสวยงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
การพิชิตลำน้ำ: ลองสัมผัสกับการพิชิตลำน้ำที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนาน
การสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น: ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นในปีนัง เช่น การแต่งกายแบบท้องถิ่น การรับประทานอาหารและขนมที่อร่อยและไม่เหมือนใคร

อาหารและอร่อยของปีนัง

อาหารปีนังมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถสัมผัสกับรสชาติเจตนาของอาหารท้องถิ่นที่อร่อยและไม่เหมือนใคร อาหารที่น่าลิ้มลองในปีนังรวมถึงผัดไทยปีนัง เนื้อปูปลาร้า เเละข้าวมันไก่ปีนัง ที่รสชาติอร่อยและไม่พูดถึงได้ไม่ได้

วัฒนธรรมและศิลปะท้องถิ่น

ปีนังเป็นสถานที่ที่มีวัฒนธรรมและศิลปะท้องถิ่นที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายได้ เช่น การศึกษาศิลปะแบบปีนัง การเยี่ยมชมวัดและวิหารที่มีเอกลักษณ์และมีความสวยงาม และการร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดขึ้นในปีนัง

เกร็ดความรู้เพิ่มเติมในการเดินทางปีนัง

การแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม: แนะนำให้คุณวางแผนการเดินทางของคุณเพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการสำรวจทุกสถานที่ที่คุณสนใจ
การใช้เสื้อผ้าที่เหมาะสม: เนื่องจากปีนังมีอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้คุณใส่เสื้อผ้าที่สบายและเหมาะกับสภาพอากาศ
การระวังความปลอดภัย: อย่าลืมดูแลตัวเองและรักษาความปลอดภัยของคุณในระหว่างการท่องเที่ยว แนะนำให้คุณตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและคำแนะนำทางการเดินทาง

สรุป

การเดินทางไปปีนังเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามและสัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของปีนัง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้คุณทำการวางแผนการเดินทางของคุณและคำนึงถึงงบประมาณที่คุณมีให้เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างสะดวกสบายและคุ้มค่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q: ปีนังมีสถานีรถไฟหลักอยู่ที่ไหน?

A: สถานีรถไฟปีนังหลักอยู่ในตัวเมืองปีนัง

Q: สถานีรถไฟใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในปีนังมีอะไรบ้าง?

A: สถานีรถไฟปีนังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดเจดีย์น้ำเงินและเขาหงอนไฟ

Q: การเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปปีนังใช้เวลาเท่าใด?

A: การเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปปีนังใช้เวลาประมาณ X ชั่วโมง

Q: มีที่พักที่คุ้มค่าใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในปีนังหรือไม่?

A: ใช่, มีที่พักที่คุ้มค่าใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวในปีนัง คุณสามารถเลือกที่พักตามความต้องการและงบประมาณของคุณได้

Q: มีอาหารประเภทใดที่ควรลองในปีนัง?

A: อาหารปีนังที่ควรลองมี ผัดไทยปีนัง, เนื้อปูปลาร้า และข้าวมันไก่ปีนัง

นั่งรถไฟเที่ยวปีนัง 5 วัน 4 คืน งบ 6,000 บาทยังเหลือ!!![VIDEO]

#malaysia #streetfood #มาเลเซีย
ใครคิดถึงการเดินทางแบบลุยๆ เราเลยเลือกไปปีนัง เพราะไม่ต้องใช้หลายวัน สำหรับคนที่มีวันหยุดไม่มาก จะไปกลับด้วยรถไฟแบบเรา หรือขากลับนั่งเครื่องกลับก็ได้ ปีนังไม่ต้องโชว์ประวัติการรับวัคซีนหรือผลตรวจแล้ว ไปเที่ยวได้เลยครับ

00:00 เปิดคลิป
00:30 ออกเดินทางด้วยรถไฟ
02:10 เช้าวันที่ 2 บนรถไฟ
02:28 การเดินทางไปขนส่งหาดใหญ่
02:50 ซื้อตั๋วรถตู้ไปปาดังเบซาร์
03:43 รอบรถไฟ KTM
04:25 วิธีการเดินไปซื้อตั๋วเรือเฟอรี่
05:47 แนะนำทางไปขึ้นรถเมล์ฟรีและเส้นทาง
06:42 ซื้อซิมการ์ด
06:59 กิน kfc ปีนัง
07:30 Apollo inn ห้องพัก
08:04 เดิน Street Art
09:09 หมู่บ้านชาวประมง Chew Jetty
10:23 กิน Street Food 4 ร้านดัง Chulia Street
13:28 เช้าวันที่3 ราคา Grab ในปีนัง
14:25 วิธีขึ้น-ลง Penang Hill
18:05 วัดเก็กลกสี่(วัดเต่า)
18:35 กิน Laksa,Koay Teow Soup อาหารถิ่น
19:31 สายรถเมล์เข้าเมือง
19:37 กินลอดช่องร้านดัง
21:15 กิน Toh Soon Cafe’ ปังปิ้งเจ้าดัง
22:05 คฤหาสน์ปีนังเปอรานากัน
24:58 Little India
25:15 กินFruitmade ไอติมผลไม้เจ้าเด็ด
26:02 Kimberry Street
26:47 เช้าวันที่ 4 แนะนำแผนก่อนกลับ
27:33 กินAis Kacang น้ำแข็งใสร้านลอดช่อง
28:52 กินTai Tong Restaurant ติ่มซำต้องมา
30:11 วิธีเดินทางกลับปีนัง-ชุมทางหาดใหญ่
33:30 ไก่ทอดหาดใหญ่มีนา ตลาดกิมหยง
34:06 รถไฟออกจากชุมทางหาดใหญ่
35:03 เช้าวันที่ 5 บนรถไฟ
36:17 จบคลิป

เนื้อหาของวิดีโอ นั่งรถไฟเที่ยวปีนัง 5 วัน 4 คืน งบ 6,000 บาทยังเหลือ!!!

วันนี้เราจะเดินทางไปปีนังด้วยรถไฟตู้นอนนะครับปีนังเป็น 1 ใน 13 รัฐของประเทศมาเลเซียมีเมืองหลวงชื่อว่า จอร์จทาวน์เป็นหนึ่งในสองเมืองของประเทศมาเลเซียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก Street Art อยู่ทุกมุมถนนตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่มีมากกว่า 100 หลังและวัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีมาม่า มากกว่าร้อยปีสตรีผู้ที่คนทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลกันมากินเมื่อที่ได้รับการขนานนามว่าไข่มุกแห่งตะวันออก ของเอเชียและที่นี่คือ George Town ปีนังประเทศมาเลเซีย รอบนี้เรามีเวลา 5 วัน 4 คืนนะครับเราจะเดินทางด้วยรถไฟทั้งไปและกลับใครสนใจรุ่นนี้ตามเรามา ที่เราน่าจะเป็นรถไฟด่วนพิเศษชั้น 2 ไปออกจากกรุงเทพฯ 14:30 น ถึงหาดใหญ่ 07:25 น มนต์จะราคา 1,500 บาทเตียงล่างจากราคา 1150 บาทนะครับขอชื่นชมรถไฟไทยสะอาดและยังออกตรงเวลา มาด้วยครับจะไปลงรถ ที่หาดใหญ่ก่อนนะครับแล้วก็ต่อรถจากหาดใหญ่ ไปปาดังเบซาร์และเพื่อที่จะไป password แล้วก็ข้ามเรือเฟอร์รี่ วิธีปิดหลัง ใช้เวลาโดยประมาณ กิจกรรมตอนนั่งรถไฟเรานึกได้อยู่ 3 อย่างนะครับดูซีรีย์ถ่ายรูปและกินครับ ตรงจุดนี้ก็จะเป็นสถานีราชบุรีนะครับจะมีแม่ค้ามาขายของแล้วเขาบอกว่าก๋วยเตี๋ยวอันนี้ห้ามพลาดเลย หมากัด ช่วงค่ำที่พนักงานเขาจะมาปูเตียงให้เรานะครับใครที่ติดซีรี่ย์แนะนำให้โหลดมาไว้ในเครื่องเลยนะครับเพราะระหว่างทางสัญญาณ โทรศัพท์ไม่ค่อยดีครับอีกอย่างนึงที่อยากให้เตรียมกันมานะครับคือพวกเบียร์นะครับเพราะว่าตู้เสบียงเข้าปิดได้จะมีข้าวกล่องค่ะ ขายพี่พนักงานเขาจะมารับออเดอร์กล่องละ 60 บาท ตอนเช้าจะไม่มีอาหารขายนะครับแต่จะมีชากาแฟพี่ๆเขาจะมาขายถ้วยละ 30 บาทตอนนี้ก็ 7:30 น แล้วนะ ขับรถยังไม่ถึงชุมทางหาดใหญ่เลยจากรถไฟดีเลย์เพราะทำทางรถไฟรางคู่อยู่นะใครจะมาช่วงนี้ต้องบอกเลยเผื่อไว้ เวลากันดีๆครับเรามาถึงชุมทางหาดใหญ่ เวลา 8 โมง 13 นาทีทำให้เราค่ารถไฟจากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์นะครับเราเลยเปลี่ยนแผนไปขึ้นรถตู้ที่บขส ขอแทน รายการเดินทางไปบขสที่เร็วที่สุดนะครับเราแนะนำให้นั่งวินนะครับคนละ 50 บาท PM พลังเบซาร์ฝั่งมาเลยนะครับรอบ 10:30 น ไม่งั้นเราต้องรอถึง 12:35 เลย พอมาถึงขนส่งนะครับให้เราไปซื้อตั๋วที่ชานชลา 25 นะครับ ราคาขวดละ 60 บาท มาถึงก็แบบชิวๆนะครับ อีก 10 นาทีรถออกเหมือนกันรถตู้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะจะถึงตมปาดังเบซาร์ฝั่งไทย ตู้มาให้เราเดินไปทางตึกทางซ้ายนะครับจะเป็นที่ปั๊มพาสปอร์ตเราจะไปขึ้นรถไฟ KTM ที่สถานีปาดังเบซาร์ฝั่ง มาเลยนะครับด้วยวินมอเตอร์ไซค์ที่รออยู่หน้าตึกนะครับคนละ 100 บาทไม่ต้องกลัวนะครับถ้าเราผ่านอุโมงค์มิติเรามีแล้ว เราใกล้ถึงแล้วครับ พอมาถึงตรงจุดนี้เวลาเขาจะเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมงแต่เราก็คำนวณเวลาผิดนะครับต้องเป็นนั่งรอบ 12:35 น 5 นาทีอยู่ดีเรื่องการพาดหรือตกรถเราว่ามันเป็นสีสันในการเดินทางนะครับ ตรงนี้ห้องขายตั๋วเขาจะอยู่ทางซ้ายมือนะครับแล้วเดินไปทางซ้ายได้เลยเขาจะเปิดขายก่อนรถไฟออกครึ่งชั่วโมงระหว่างรอรถ สายแนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนเลยนะครับเพราะว่าบนรถไฟไม่มีห้องน้ำและใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง และนี่คือตารางเวลารถไฟ KTM ตอนนี้ห้องขายตั๋วเปิดแล้วนะครับค่าตั๋วรถไฟคนละ 11 14 อังกฤษ ตรงนี้เราสามารถสแกนเข้าเองได้เลยนะครับบนตั๋วมีบาร์โค้ดอยู่และเก็บตัวไว้นะครับขาออกต้องใช้ด้วยเด้อลงมาตาม ตามทางนะครับแล้วรถไฟเราจะออกทางศาลาที่ 2 และนี่คือหน้าตารถไฟ KTM ระหว่างทางก็จะเป็นวิวภูเขาสลับกับบ้านคนนะครับนั่งกันไปเพลินๆจริงๆวิวบ้านเขาคล้ายกับบ้านเรามากเลยน้องชั่ว หมูแป๊บเดียวนะครับเพราะเราข้ามสะพานนี้ก็จะถึงสถานีรถตู้ของเราจะจอดชานชลาที่ 4 ให้เราเดินตรง ไปขึ้นชั้น 2 เพื่อที่จะสแกนออกตรงนี้ใช้เวลาไม่นานนะครับเหลืออีก 1 การเดินทางที่จะเข้าไปเกาะปีนังนะครับนั่นคือ คือนั่งเรือเฟอร์รี่ตามมาดูกันดีๆนะครับอาจจะลึกลับซับซ้อนหน่อยแต่ไม่ได้ยากอะไรที่เราจะมาซื้อตั๋วก็มีป้ายเฟิร์น เชอรี่บอกเป็นระยะ เดินข้ามไปรอกำแพงๆหรือให้สังเกตตรงที่คนเยอะๆนะครับเขาไปตรงไหนเราตามไปตรงนั้นพ่อคนจน ใหญ่จะข้ามเรือเฟอร์รี่ไปปีนังตรงจุดนี้นะครับ เดินมาตามทางจะมีป้ายบอกให้เราขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 2 ตรงนี้พอเราออกจากลิฟต์มานะครับเราเดินตามลูกศรไปเราจะเจอถุงใหญ่ให้เดินชิดซ้ายไว้ ทางออกจะอยู่ตรงข้าม KFC ประตูนี้ก็จะเป็นทางออกห้องไปซื้อตั๋วแล้วครับอีกอึดใจเดียวแล้วก็จะถึงปีนังแล้วตรงนี้ให้เราเดินตรงไปจนสุดทาง อ่านนะครับแล้วลงไปชั้น 1 เพื่อซื้อตั๋วตรงนี้ ตัวเฟอร์รี่จะมีราคา 1.15 ริงกิตนะครับซื้อตั๋วปุ๊บสแกนเข้าได้เลย สำหรับตารางเวลาเรือเฟอร์รี่เขาจะออกทุก 15 นาทีและนี่คือหน้าตาเรือเฟอร์รี่ของเขาครับใครที่มาตรงศุกร์เสาร์ เอาแบบเราควรจะเยอะนะครับนักท่องเที่ยวก็เยอะคนมาเลย์เยอะมากด้วยเพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงเกาะ ปีนังครับ ถึงตรงจุดนี้นะครับเราใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมาปีนัง 24 ชั่วโมงเรียบร้อยแล้วนะครับ น้ำยังไม่ได้อาบข้าวยังไม่ได้กินนะครับแนะนำให้นั่งเครื่องมานะครับเปลี่ยนใจยังทันนะครับตอนนี้ ไร่หนึ่งอย่างที่เราอยากจะบอกนะครับมาบนเกาะปีนังนี่มีรถเมล์ฟรี นี่คือความภูมิใจของเรามากเลยนะครับ แล้วพรุ่งนี้เราจะบอกเส้นทางการเดินไปขึ้นรถเมล์ฟรีเพื่อที่จะไปซื้อซิมการ์ดที่คอมต้านะคะระยะทาง ประมาณ 600 เมตรจากท่าเรือให้เราเดินมาทางขวาจะมีวงเวียนควีนวิคตอเรียอยู่นะครับนี่รอรูปขึ้น ได้นะให้เราเดินผ่านตึกเหลืองนี้ไปตามเส้นทางนี้นะครับข้างล่างเขาจะมีเซเว่นข้ามไปเลยครับจะเจอสถานี ตอนนี้เราสามารถบอกคนขับได้เลยนะครับว่าเราจะลงสถานีไหน และนี่คือเส้นทางเดินรถเมล์ของสาย Cat ครับ รถเมล์อีกรอบ รถแอร์ด้วย ไปที่เคาน์เตอร์หน่อยครับเพื่อนซื้อซิมการ์ด เป็นสินค้าและโปรโมชั่น นั่นเขานะครับเราใช้ 8 GB 25 ริงกิตซึ่งรปภนะครับใน 3 วัน ตรงจุดนี้เราจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีนะครับก็ถึงคอมต้าแล้ว แล้วมื้อแรกของเราในการมาปีนังคือการกิน KFC งั้นเราลองมาดูกันนะครับว่า KFC บ้านเขากลับบ้าน เราจะคล้ายกันไหมทุกอย่างเมนูค่อนข้างคล้ายกันนะครับหน้าตาที่ร้านก็ค่อนข้างคล้ายกันแต่เราชอบอันนี้มากเลยมันฝรั่ง ชิ้นใหญ่นะครับลากมากับซอสชีสดีมากๆที่แตกต่างจะเป็นตัวซอสทั้ง 3 แบบซอสพริกซอสมะเขือเทศ รักไทยซอสอันนี้นะครับแตกต่างมากรสชาติเขาจะมีกลิ่นเครื่องเทศที่แบบ กินเข้าไปตอนแรกจะงงๆนิดนึงแต่ว่ากินไปกินมาเนี่ยเอออร่อยดีอร่อยเลยเส้นนี้เราจ่ายไปราคา 28 8 ริงกิตตีเป็นเงินไทย 200 กว่าบาทนะครับก็ถือว่าราคาพอๆกับบ้านเรา และถึงเวลาเข้าห้องเช็คอินเราเลือกโรงแรมใกล้คอมต้านะครับ ชื่อ Apollo Inn จาก Agoda มานะครับราคาห้องประมาณ 950 บาท เข้าพักในเมืองจอร์จทาวน์เราจะมีค่าธรรมเนียมในการนอนพักอีก 2 ริงกิตนะครับต่อคน ห้องพักที่นี่เขาจะเล็กๆนะครับแต่ว่าไม่ได้อึดอัดนะ มีห้องน้ำในตัวมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้มีไดร์เป่าผม ตัวชาร์จที่จะชาร์จแบตของไทยได้แล้วนะครับแต่ถ้าเกิดใครที่ชอบชาร์จเยอะๆเหมือนเราเนี่ย แนะนำเอาปลั๊กพ่วงไปด้วยครับและมีเวลาอีก 3 ชั่วโมงเพื่อที่จะเดินตามเก็บการ์ดของวันนี้นะครับตามรูปเลยครับ วันนี้เราก็ น้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครับออกมาตะลุยตามหา 4-5 ตอนเย็นนี้แหละ ไปเลยดีกว่า เราเริ่มไปถ่ายรูปกันที่แรกที่ตึกจอร์จทาวน์นะครับเป็นตึกสีขาวตั้งเด่นอยู่หัวมุมถนนเขาบอกเลยว่าเป็น 1 แรงม้าที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปนะครับด้านศิลปะที่เราเห็นอยู่ทั่วทั้งเมืองจอร์จทาวน์เป็นแนวคิดของรัฐปีนังเพื่อ เพื่อที่จะบอกเล่าเรื่องราวและวัฒนธรรมผ่านศิลปะ นับตั้งแต่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2008 ใครที่อยากเก็บสตรีทอาร์ตทั้งหมดนะครับที่นี่เขาจะมีแผน แผนที่ให้ด้วยตามโรงแรมหรือร้านคาเฟ่เราสามารถขอเขาได้ฟรีเลยพี่ถ้าส่วนใหญ่ตรงนี้จะจุกกันเป็นกลุ่ม นะครับเราสามารถถ่ายรูปได้เลยเต็มที่นะครับรอใครที่ชอบถ่ายรูปเนี่ยตรงนี้ดีมากและภาพที่ส่วนใหญ่คนมาต่อ ต่อคิวถ่ายกันนะครับก็จะเป็นภาพพวกน้องๆพวกนี้แหละครับ เดินเช็คอินเก็บ Street Art ถ่ายรูปมาเรื่อยๆนะครับเราจะเจอกับสถานีดับเพลิงซึ่งจะบอกว่าสถานีดับเพลิงที่เนี่ย สวยมากเลยครับถ้าเป็นอีกหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดจะมาถ่ายรูป จุดหมายต่อไปของเราคือหมู่บ้านคิวตี้นะครับหมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับรางวัลจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่อพยพมาจากกวางโจวนะครับหมู่บ้านนี้มีมากกว่า 200 ปีแล้วบ้านของผู้คนในชุม ชุมชนนี้เขายังคงรูปแบบเดิมไว้นะครับบ้านไม้เก่าแก่ผสมศิลปะจีนพร้อมทั้งบรรยากาศเงียบสงบ มันเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของชุมชนนี้มากเลยครับน่าท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่นะครับเขาจะมาดูพระอาทิตย์ตกกันนะครับแต่วันที่เรา ต่อไปนี้คือฟ้าฝนมาแล้วนะครับแต่ละภาพบรรยากาศเล็กๆน้อยๆมาฝากนะครับ สะพานที่เราเห็นอยู่นี้เป็นสะพานที่ติด 1 ใน 10 สะพานที่ยาวที่สุดในโลกมีระยะทาง 13.5 กิโลเมตรเพื่อ เชื่อมไปยังแผ่นดินใหญ่ของรัฐ เปิดใช้เมื่อวันที่ 14 กันยายน 1985 หรือ 37 ปีที่แล้วนะครับก็คือหมู่บ้านชาวประมงนะครับ เก่าแก่มากนะครับอยู่มานาน อีกนานไหมครับ ก็ทำเป็น ที่ท่องเที่ยวเดินป่า วันนี้เข้ามาเย็นหน่อยนะครับ มันตกและมันมืดกว่าเดิมนะ ไปกิน ติดบูท ของพี่น่าจะดีกว่า ยูเรีย Julia Street เรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดถนนแห่ง Street Food ของปีนังสำหรับใครที่ชอบเที่ยวแบบเน้นกินเหมือนเราบอกเลย ไหนว่าที่นี่คือสวรรค์ของเหล่านักกิน เสียบไม้จิ้มจุ่มด้วย แล้วจะว่ากูทำสีน้ำจิ้มแล้ว ลองดูดิ น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ ไปลงไหนเอ่ย มันถุงทองอันนี้ นกนางนวล เดี๋ยวรอพี่หมูก็ได้นะครับ ตั้งปลุก ดอกไม้เลย เมนูต่อมาจะเป็นชาก๋วยเตี๋ยวนะครับหน้าตาเหมือนผัดไทบ้านเราเขาจะเอาเส้นมาผัดปูด้วยซอสพริกและซีอิ๊วใส่ กุ้งถั่วงอกหอยแครงปลาเส้นและไข่ผัดมะละกอนี่คือหอมคั่วกระทะมากนะครับรสชาติออกเค็มนำเผ็ดนิด คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่บ้านเราเลยครับร้านที่นี่เขาจะไม่มีเครื่องปรุงให้นะครับเราต้องมั่นใจในฝีมือลงนะครับ จะบอกเลยว่าข้าวผัดอร่อยเหมือนกันทุกจาน ร้านต่อมาจะเป็นขนมอาโป้งหรืออากงนะครับขนมจีนของปีนังคล้ายแพนเค้กหอมนุ่มๆรสชาติหวานนิดๆ เห็นคนต่อคิวเยอะนะครับเลยแวะจัดซะหน่อย อาม่าทำคนเดียวนะครับแต่เชื่อชาญมาก จริงๆขนมเนี่ยมีขายที่ภูเก็ตด้วยนะครับ และเมนูปิดท้ายของค่ำคืนนี้นะครับ วันหนึ่งมี บะหมี่เส้นเหนียวนุ่มมาพร้อมน้ำดำเกี๊ยวหมูแดงบอกเลยครับร้านนี้คนต่อคิวเยอะมาก เช้านี้มาใหญ่มากนะครับกิน 2 คนมีจุกในราคา 7 ลิตรหรือประมาณ 60 บาทเท่านั้นนะครับ ก็คือ Julia ร้านดัง จากตรงนี้ก็มีถนนให้เราเดินเล่นนะครับดูแสงสีไม่ว่าจะเป็นผับ Bar Cafe กลางวันว่าสวยแล้วนะครับกลางคืนยิ่งสวยเข้าไปอีกใครที่ชอบแพงเอาเนี่ยไม่ควรพลาดเลยแล้วน้องฝนก็ตกลงมานะครับ น้ำตกแปลกมากด้วยตกแรงและอีกแป๊บนึงหยุดสนิทเลยครับแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะเราขอล่ะ ฝากคำนี้ไปด้วยสายฝนนะครับพรุ่งนี้เราจะเดินทางไปปีนังฮิลล์แต่เช้าฝันดีครับทุกคน เราจะไปปีนัง 5:50 น เ***แตกใน มีอะไรถึงที่โน่น 6 โมงครึ่ง สมเด็จยุคแรก ฝนตกไหม วันนี้ สวัสดีครับสวัสดีค่ะ หิว ทิศทาง Thailand เคยไปไหมคะ ใช่แล้วครับทุกคนฟังไม่ผิดคนขับพูดไทยได้ สั่งพิเศษด้วยรอใช้เวลา 15 นาทีจากโรงแรมก็มาถึงปีนังฮิลล์ค่ารถประมาณ 15 ML หรือ 100 20 บาท แต่คนที่นี่เขาน่ารักมากนะครับเขายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคน พอมาถึงก็มีคนมาต่อคิวแล้วนะครับซึ่งเข้ามาเร็วมากเลยและห้องขายตั๋วเข้าเปิดตอน 6 โมง 15 นะครับ และจากจุดนี้แนะนำให้วิ่งเลยนะครับคิดว่าเราไปจองบัตรคอนเสิร์ตแล้วกันนะ ตรงนี้ก็เป็นจังหวะช่วงชิง – เรียนมาม่าไปด้วยต้องขอโทษด้วยนะครับ ตัวเขาจะมี 2 แบบแบบฟ้าสเปนกับนอร์เวย์นะครับแล้วเลือก Normal Lens คือ 30 ริงกิตนะครับ ส่วนฟาสเลนยังไม่ต้องต่อคิวนะครับสำหรับคนที่ใช้เงินตัดสินปัญหาหรือว่าต่อแถวยาวๆเนี่ย 50ริงกิตจัดไปเลยครับ จอดตรงนี้ให้เราเดินกลับมาทางเข้าที่ซื้อตั๋วแล้วครับหาป้ายคำว่าเทรนผ้าตอนเช้าก็ดีอย่างนะครับคนจะลง โต้งหน่อยเห็นบอกว่ามาช่วงกลางวันเนี่ยแล้วยิ่งเป็นวันหยุดมีคนต่อคิวเยอะมาก เห็นบอกต่อกันเป็นชั่วโมงเลยนะมึงนี่น่าจะเป็นประวัติของปีนังฮิลล์นะครับถามว่าเขาอ่านไม่ให้ไม่ได้อ่านนะครับเรารีบไปขึ้น หลบหลังรถตื่นเต้นมากอารมณ์เหมือนมาเที่ยวสวนสนุกๆเลยนะครับเพราะคนโล่งมากเลยส่วนตัวก็เป็นแบบสแกนเข้าเมล มีบาร์โค้ดอยู่ให้เก็บนะครับใช้ทั้งไปและกลับ แถวๆการตื่นเช้าของเราก็เห็นผลนะครับได้คิวเป็นคนแรกๆเลย เล็กๆน้อยๆที่อยากจะแนะนำคือตอนขึ้นให้นั่งหน้าตอนกลับให้นั่งหลังนะครับจะได้เห็นวิวมองแล้ว รถไฟส่วนกลางแต่เราคงไม่เห็นแน่เพราะยังมืดอยู่เลยครับนี่ขนาดเราขึ้นรอบแรกสุดคนยังเยอะขนาดนี้เลยนะครับ รถไฟออกแล้วขอพูดถึงปีนังฮิลล์เล็กๆน้อยๆนะครับพี่นั่งหิวหรือคนมาเรียกในภาษามลายูว่าบุกิ เบนซ์ดาราถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของเกาะปีนังถ้าชอบถ่ายรูปมุมสวยๆเดินชมธรรมชาติอยากรับอากาศเย็นๆสดชื่น ที่ไหนครับแนะนำต้องมา ด้วยความสูง 833 เมตรจากระดับน้ำทะเลและธรรมชาติที่สมบูรณ์ทำให้ปีนังคิวมีเสน่ห์เฉพาะตัว ปีนังฮิลล์ยังมีสถานที่หลายแห่งที่น่าสนใจเช่นพิพิธภัณฑ์นกฮูกสวนดอกไม้มัสยิดวัดฮินดูและบ้านพัก อากาศนะครับหรือใครที่ชอบธรรมชาติจะมีแต่ฮาบิแททที่นี่คือเส้นทางการเดินศึกษาธรรมชาติซึ่งจะให้ความรู้เกี่ยว เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติต่างๆนะครับเดี๋ยวนี้สะดวกด้วยรถรางไฟฟ้าที่วิ่งขึ้นสู่ยอดเขาใช้เวลาเพียง 5 นาที สมัยก่อนเราต้องใช้เวลาถึง 30 นาทีเลยนะครับต้องรวมเวลาเปลี่ยนรถด้วยแต่เดี๋ยวนี้สะดวกสบายต่อเดียวถึงเลยไม่นานเราก็ ก็ขึ้นมาถึงด้านบนตอนที่เราไปนี่คือฝนตกตลอดเวลานะครับอากาศประมาณ 21 องศาเย็นสบาย แล้วสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นคือมีหมอกมาครับมาแบบล้วนๆเลยมาจนมองไม่เห็นอะไรด้านล่างเลย รอประมาณครึ่งชั่วโมงฟ้าก็เริ่มสว่างนะครับแต่หมอกยังมีอยู่เลยทำให้เราไม่เห็นเมืองเลยครับเราเลยเลือกที่จะเดินเล่นได้ ด้านบนจะมีมัสยิดวัดฮินดูบ้านพักตากอากาศบ้านพักตากอากาศหลังแรกถูกสร้างขึ้นในปี 18 03 โดยใช้ อังกฤษที่ปกครองปีนังอยู่ในขณะนั้นนะครับสร้างบ้านพักตากอากาศบนปีนังฮิลล์เพื่อเป็นที่คลายร้อน ปีนังฮิลล์ได้รับความนิยมมากขึ้นมีการสร้างบ้านพักตากอากาศมากขึ้นนะครับ ทำให้มีการเอาทหารและข้าราชการขึ้นมาที่นี่มากดังนั้นเพื่อความสะดวกจึงสร้างรถรางไฟฟ้าเพื่อขึ้นมายัง ตำบลปีนังฮิลล์ครั้งแรกในปี 1923 ซึ่งถือเป็นรถรางไฟฟ้าแห่งแรกในตะวันออกเฉียงใต้ด้วยนะครับ และเราก็ใช้เวลาอยู่บนนี้ 3 ชั่วโมงแล้วนะครับก็ยังไม่เห็นทีท่าว่าหมอจะลดลงเลยเหล้าเลย เลือกที่จะลงไปด้านล่างเพราะมีไปต่ออีกหลายที่แอบเสียดายที่ไม่ได้เห็นวิวเมืองนะครับแต่ว่ามีหมอมาแบบนี้ก็ทดแทนกันได้ ด้านบนเขาก็จะมีอาหารขายก็จะเป็นอาหารเช้าอาหารถิ่นของเขาอาหารทานง่ายๆนะครับสำหรับขนมหวานเขาก็มีมาแบบ อลังการมากเลยนะครับให้สายหวานต้องชอบแน่ๆนั่งกินกลางหมอกนี่ 6 ฟินสุดๆและก่อนแล้วกลับนะครับก็เห็น จ้าพรุ่งนี้มากันเป็นแก๊งเลยนะครับ ดูหน้าพวกมันสิครับที่รับความงดงามของธรรมชาติ แต่เราว่านี่คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของเกาะปีนังที่ใครมาเที่ยวต้องขึ้นมาบนปีนังฮิลล์นะครับเราว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งแผง ที่ทำให้คุณหลงรักปีนังเหมือนกับเรา จุดหมายต่อไปคือวัดเขาเต่าหรือวัดโกรกสีนะครับเราเรียกแก๊ปลงมาจากปีนังฮิลล์ 517 จะเป็นวัตถุที่ใหญ่ที่สุด ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสถาปัตยกรรมแบบผสมทั้งไทยจีนและพม่าที่ผสมผสานได้อย่างสวยงามจุด แผนที่ความอลังการใหญ่มากนะครับวัดนี้และแล้วเราก็ได้เห็นวิวเมืองปีนังจากวัดตรงนี้ด้วยนะครับที่ว่าจะมี รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงถึง 30 เมตรที่มีขนาดใหญ่มากใครจะมาที่นี่สามารถมองเห็นวัดได้แต่ไกลๆเลย ได้เวลาของความสุขแล้วนะครับนั่นคือการกินลงมาจากวัดจะมีตลาดเล็กๆอยู่เราเลือกจะกินอาหารถิ่นชาวเปอรานากัน กันนั่นคือหลักตาเขียวเพศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนกับมลายูในประเทศมาเลเซีย แกงส้ม มันใส่ซองแดงตรงนี้เราต้องถอดใจเปลี่ยนไปเป็นเมนูอื่นนะครับไม่คุ้น จริงเราเลยลองจัดร้านข้างๆนี้นะครับคือหน้าตาก๋วยเตี๋ยวที่เราคุ้นเคยมาก จะเป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำใสบ้านเรานะครับรสชาติกลมกล่อมน้ำซุปหอมเส้นดีคือบอกเลยอันนี้ The Best จริงๆครับ เจ้าหมูอ้วนๆอร่อยแสงของจริงที่นี่เขาจะไม่มีเครื่องปรุงให้เหมือนเดิมนะครับแต่จะมีเป็นซีอิ๊วใส่พริกมาแบบนี้ เมนูนี้แนะนำเลยครับถ้าเกิดใครมาปีหน้าอย่าลืมมารอนะครับ ก๋วยเตี๋ยวซุป จากหน้าตลาดตรงนี้เราเลือกที่จะนั่งรถเมล์เข้าเมืองนะคะสาย 201 หรือ 204 ก็ได้คนละ 2 ริงกิต อยู่นะ มากินลอดช่องเจ้าดังปีนังที่เขาบอกว่า ยังไงมาปรีดาพี่ดำ ไม่ลองไม่รู้วันนี้เราจะลากส้นตีนกูนะครับ พบได้เยอะที่สุด Chilindo น้อย ชิลินโด้ เหรียญ ขอบคุณครับขอบคุณค่ะ ความนิยม พูดภาษาไทยได้เยอะนะ แมนยู เป็นไงคะที่ดีที่สุดของพี่นางด้วยครับ ลอดช่อง อร่อยมากอันนี้อร่อยจริงเพียบ ไปด้วย ตามล่าร้านเด็ดร้านนะครับร้านเหมือนขนมปังสังขยา ค่ายา ขนมปังปิ้งอบกรอบแล้วก็มีไข่อยู่ข้างบน อันนี้เป็น 1 ล้านพี่ ยังไงฝากพี่นางก็ต้องมาครับ มึงสายมื้อเช้าเลยไม่มีข้าวด้วย เรามารู้จักเรื่องราวและวิถีชีวิตหนึ่งในตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดของปีนัง มรดกตกทอดทางวัฒนธรรมสู่สายเลือดลูกผสมจีนมลายู และนี่คือคฤหาสน์เปอรานากัน ชาวเปอรานากันเกิดจากวัฒนธรรมการผสมผสานกับจีนและมลายูเป็นการนำเอาส่วนดีมารวมกัน กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่เกิดขึ้นได้อย่างลงตัว พฤหัสบดีรายการสร้างขึ้นในทศวรรษที่ 1890 อดีตเคยเป็นของคหบดีชาวจีนที่ตั้ง ตกปลาที่เกาะปีนังจากการทำเหมืองและค้าขายดีบุกในรัฐเปรัคทางเข้านี้ดูธรรมดามากเลยนะครับแต่เข้ามา ไปแล้วเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลย มันสวยเนี๊ยบทุกตารางนิ้วการออกแบบอย่างพิถีพิถันสวยงามอลังการหรูหราการตกแต่งผสม สมผสานระหว่างข้าวของเครื่องใช้จีนและจากประเทศตะวันตก ในห้องมีไก่เล่าให้เราฟังว่าคืนก่อนบ่าวสาวเข้าหอนะครับจะมีการนำไก่ตัวผู้และไก่ตัวเมีย เมียใส่ซุกไว้ใต้เตียงก็ผ่านไป 1 คืนคนในบ้านจะหยิบไก่ออกมาเชื่อว่าหยิบไก่ตัวผู้จะได้ลูกชาย แล้วหยิบไก่ตัวเมียจะได้ลูกสาวครับ แล้วที่นี่ยังเคยถูกปล่อยให้เสื่อมโทรมด้วยครับจนเมื่อปี 1990 มีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้เข้ามาทำการปรับปรุงคฤหาสน์และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์มาจนถึงทุกวันนี้ครับ ใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมนะครับพฤหัสบดีควรค่าแก่การมาอย่างยิ่งและยังควรค่าแก่ แก่การถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ จะมีของสะสมเป็นพันๆชิ้นเลยนะครับทำให้เรารู้เลยว่าเจ้า ของคฤหัสถ์ที่มีความมั่งคั่งและรสนิยมดีขนาดไหนในสมัยนั้นถ้าเข้าชมคฤหาสน์ปีนัง peranakan นะครับราคา 20 ลิตร นี่คือเรื่องราวเก่าๆของคฤหาสน์เปอรานากันนะครับสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้หลังจากออกมานะครับ เราว่าคฤหาสน์นี้คู่ควรที่จะอยู่กับปีนังตลอดไป ไปร้านไปร้านติ่มซำ บอกว่ามาปีนังเนี่ยนะ เหมือนกันครับ คนเยอะแต่ไม่รู้รสชาติเป็นไงเราไปดูกัน ไผ่ทอง Restaurant หมายถึง คนเยอะ เปิด 2 รอบนะ ตอนเช้าถึง 14:00 น ครับรอบ 18:00 น ถึง 21:30 น สัมภาษณ์ ปิดแล้ว ลิตเติ้ลอินเดียในจอร์จทาวน์ถึงเป็นย่าเล็กๆแต่ดูมีสีสันนะครับ ผู้คนน่ารักชาวบ้านร้านค้าในที่นี้จะเป็นชาวทมิฬครับย้ายถิ่นมาจากรัฐที่อยู่ทางใต้สุดของอินเดีย รวมไปถึงศรีลังกาเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ก็เลยเล่นรอบเมืองไปสักพักนะครับก็ต้องมาเติมความหวานกันหน่อยแล้วมันสะดุดตากับร้านที่ชื่อว่าฟุตเมตรได้เต็มแก้วมังกร ส่วนผสมเลมอนโยเกิร์ตสีสันจัดจ้านมากนะครับเขาจะเสิร์ฟมาบนผลแก้วมังกรแบบนี้นะครับรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อย หน้าตาน่าเอาลงโซเชียลสุดๆไปเลยครับ มันเหนื่อยนะวันนี้โดนตีนกูทั้งวัน ได้พาไปลุยต่อตอนนี้ขอยืมก่อนแล้วไปรับ หลังจากนี้เราก็เดินเล่นในเมืองนะครับตามเก็บ Street Art ในแผนที่ชมเมืองไปเพลินแบบเจอซอยไหนเลี้ยวซอยนั้น ไม่มีแผนอะไรนะครับแต่ช่วงเย็นเราเจอฝนแบบและรอกใหญ่ตกได้ไม่หยุดอีกแล้วครับตกสลับกันเหมือนเดิมเลย คืนนี้เราเลือกที่จะฝากท้องไว้กับคิมเบอร์ลี่ Street นี้นะครับ เขาจะมีร้านค้าเยอะแยะมากมายคล้ายๆกับจูเลียนะครับ แต่ร้านอาจจะน้อยกว่า เล่าเรื่องร้านอาหารใน Food Court ในนะครับร้านจะเป็นข้าวอบหม้อดิน ซื้อข้าวหุงข้าวอบใหม่แบบหม้อต้มหม้อ ใส่ซี่โครงหมูกุนเชียงและไข่ข้นลงไป รสชาติจะออกเค็มนำแต่เราว่า ok เลยครับ รสชาติอาหารของที่นี่หลายๆร้านนะครับเขาจะออกเค็มนำ บอกเลยว่าจานนี้ถ้าเกิดมีน้ำจิ้มซีฟู้ดนะครับสุดจริงๆ และนี้ก็เป็นการเดินทางของเราทั้งหมดตั้งแต่เช้ายันค่ำในวันนี้นะครับหวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับเรา สำหรับคืนนี้ลาไปด้วยสายฝนเช่นเดิม Good Night ครับ แผนผังการเดินทางกลับเช้านี้ไม่มีอะไรมากนะครับเราจะมาบอกวิธีกลับโดยใช้เส้นทางเดิมเหมือนตอนมาและที่สำคัญก่อน กลับคือการกินครับเราจะพาไปกินโรตีร้านใกล้ๆโรงแรมและนาซีโกเร็งกับชาก๋วยเตี๋ยวรอด้วย เรายังติดใจรสชาติอยู่นะครับตบท้ายด้วยติ่มซำร้านเมื่อวานที่ปิดวันนี้ต้องจัดให้ครบครับ ครึ่งชั่วโมงก็จะมานะ งั้นเราขอเปลี่ยนมาเป็นนาซีโกเร็งดีกว่านะครับรสชาติจะให้นึกถึงเข้าผับบ้านเราเลยเขาจะโปะ ไข่ดาวมาด้วยและชาก๋วยเตี๋ยวรสชาติเหมือนเดิมไหมครับ จะออกเค็มนำนะที่นี่แต่ร้านที่เรามากินก็คือร้านลอดช่องนะครับตรงนี้จะเป็นร้านด้านใน ก่อนกลับแล้วก็ ปลาบอกรัก ลองดูของใหม่ลองดูว่ามีอะไร ยังตราตรึงติดลิ้นอยู่เลยนะ หนัง x ไทย อาจารย์แปล ไอศกรีมนะครับช่องด่าน เวลาน้อย ที่ร้านสุดท้ายที่เราจะกินก็คือร้านติ่มซำเราจะลองไปลองต่อแถวดูนะว่าเราจะมีเวลาพอไหม ตอนนี้เขาบอกว่ายังไงมาก็ต้องกิน พรุ่งนี้ล่ะเวลาเราเหลือ 20 นาทีนะครับประมาณนี้นะถ้าเรายังไม่ได้โต๊ะเราก็ต้องออกไปนะครับเพราะกดกิน มีรหัสจะได้คิวครับ Thank You Thank You Thank you ครับ จะให้ไปออกมานะแล้วก็หยิบมาเลือกกินไปเท่าไหร่ ตรงนี้จะเป็นเคาน์เตอร์รับอาหารนะครับถ้าเกิดใครไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรนะครับให้เอารูปโชว์ให้เขาเลยจริงๆอาหารค่อนข้างเร็วแต่เป็นเพราะว่าคนเยอะแล้วคิวยาวนะครับเลย ช้าไปนิดนึงที่เราสั่งมาจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดขนมจีบกุ้งทาร์ตไข่ซาลาเปาลาวานะครับแต่ที่เราพลาดสั่งคือ เป่าไส้หมูแดงนี่คือภาพหน้าตาหล่อๆต่อคิวไม่ได้แล้วครับตกเรือแน่นอน หวานหอม เมนูหน้าครับสำหรับทริปปีนังกิน แล้วเราก็เรียก Grab จากร้านติ่มซำไปท่าเรือเฟอร์รี่นะครับ หลังจากนี้กล้องอาจจะยกโยกหน่อยต้องขออภัยนะครับเพราะว่าต้องวิ่งครับ เราต้องไปขึ้นเรือให้ทันรอบเที่ยงตรงเพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟสถานีบัตเตอร์เวอร์ธตอน 12:35 น ะครับไม่งั้นเราไม่ทันขึ้น รถไฟหาดใหญ่ไปกรุงเทพฯแน่นอนตรงนี้นะครับเหมือนกับตอนมาเป๊ะ ลงเรือเฟอร์รี่เราก็ต้องวิ่งต่อตรงนี้ตามกันมาดีๆนะครับ ให้เราขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ไปตามทางเชื่อมเพื่อที่จะเข้าด้านในตัวตึก 5 ประตูข้าง KFC ตรงไปสู่โถงใหญ่เพื่อ เพื่อที่จะลงลิฟท์ ลงมาให้ข้ามทางม้าลายถ้าเห็นป้าย KTM คือมาถูกทางแล้วนะครับ ผ่านกำแพงแดงมาเราจะเห็นสถานีตรงเข้าไปขึ้นชั้น 2 เราสามารถบอกลาปีนางได้จากมุมนี้ แต่คราวหน้านะครับนั่งเครื่องมาเท่านั้นห้องซื้อตั๋วจะอยู่หัวมุมสแกนตัวเข้าลงมาข้างล่างรถไฟจะออกช้า อัจฉราที่ 4 มาถึงตรงนี้คือรอบแล้วนะครับ นั่งรถ 2 ชั่วโมงเราก็มาถึงสถานีปาดังเบซาร์รถไฟมาเลเข้าถึงตรงเวลาจริงๆนะครับอันนี้ขอชื่นชมและที่สำคัญ อย่าลืมเก็บตัวไว้สแกนออกด้วยนะ วันที่เราเดินทางกลับจะเป็นวันอาทิตย์คนเลยค่อนข้างเยอะ ทั้งนักท่องเที่ยวและคนมาเลเองเยอะมากครับ ให้เราสแกนออกประตูเดิมเลย ตรงนี้มีพี่เขาแนะนำมาให้เรานั่งรถตู้จากสถานีปาดังเบซาร์ไปชุมทางหาดใหญ่นะครับเหมือนตอนมาแต่ละ ราคาจะแพงกว่าคือ 250 รวมรวมแล้วก็พอดี 250 ไปไหนกันครับ ไม่ต้องเขียนอะไรทั้งสิ้นเส้นทางกลับจะมี 2 แบบนะครับคือ รถไฟและรถตู้ ใครที่จะขึ้นรถตู้กลับเหมือนเรานะครับให้มาตรงซุ้มนี้คนนี้คือพี่ชายจะมาบอกตารางเวลารถไฟทั้งไปและกลับมาดัง เมษาหาดใหญ่นะครับคนไทยที่เดินทางมาที่มาเลเซียนะครับ รถจะออกจากหาดใหญ่วันละ มรสุม 2 เที่ยวนะครับ มีรอบ 10.30 นออกจากหาดใหญ่แล้วมาถึงปาดังเบซาร์ 8 โมง 25 จากฮานอยไปซาปาช่วงเช้าก็คือ 8 โมง 55 แล้วถึงหาดใหญ่ 09:50 น ช่วงบ่ายก็คือบ่าย 2 โมง นึกว่าจะมาถึงประมาณเมษา 14 จุด 55 นอนหรือ 14:00 น 55 แล้วก็จะออกจากบ้านตี 3:00 น 40-50 ใจ 16:35 ผู้โดยสารไทยหรือว่านักท่องเที่ยวไทย โดยทั่วไปแล้ว ยังไม่มีข้อมูลมาก็มาหาผมที่สถานีส่งข้อมูลทุกอย่างโอเคครับขอบคุณพี่ใจมากเลยครับ สวัสดีครับผมครับ จากตรงนี้เราก็ไปทำการแสตมป์พาสปอร์ตนะครับออกจากมาเลย์เข้าไทย นั่งรถตู้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วก็มาถึงชุมทางหาดใหญ่ ใครที่มีกระเป๋าใบใหญ่ๆมาแนะนำให้ฝากกระเป๋านะครับที่นี่เขามีมินิมาร์ทรับฝากด้วย ตอนนี้เวลาเราจะเหลือประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนขึ้นรถไฟมาหาดใหญ่ทั้งทีต้องกินอะไรครับ ใช่แล้วครับไก่ทอดหาดใหญ่เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงเราเลือกที่จะมากินแถวตลาดดังของหาดใหญ่นะครับนั่นคือตลาดกิน กิมหยงเปิดมาก็เจอเลยไก่ทอดหาดใหญ่มีนาขายคู่ตลาดกิมหยงมาเกือบ 40 ปีภาษาอังกฤษอย่างไร ถ้าได้ยังไงดูความระยิบระยับของไก่ทอดเขาสิครับใครจะอดใจไหวจริงไหม ตอนถ่ายอยู่หน้าเตานี้คือหอมมากนะครับอยากจะส่งไปให้ทุกคนได้กลิ่นจริงๆครับเขามากและทอดสดๆกันหน้าตามนี้เลย เราเลือกข้าวหมกไก่กินคู่น้ำจิ้มไก่รสหวานพร้อมอาจารย์ออกเปรี้ยวนิดๆข้าวหอมเครื่องเทศไก่ทอด อันนี้คือแบบว่ากรอบนอกนุ่มในมากครับใครที่มาหาดใหญ่แวะมาลองนะครับไก่ทอดหาดใหญ่มีนาข้างตลาด อุทยาน หมดสภาพ 5:45 น ออกนี่ออก 17:30 น จะไปดูกันนะครับอันนี้ถือว่าออกตรงเวลานะ เดี๋ยวไปดูก่อนนะครับว่าถึงกรุงเทพฯกี่โมงอาทิตย์นี้ปีนังเราก็ ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้นะครับเพราะว่ายังมีการเดินทางอีกนิดนึง หาดใหญ่ บ๊ายบายหาดใหญ่ ขากลับตอนกลางคืนไม่มีอะไรขายนะครับอย่าลืมตุนเสบียงกันขึ้นมาชวนเราก็ซ้ำไก่ทอดมีนาคมอีกมือครับไก่ทอดกับข้าวเหนียว จุกหัวอร่อยดูดนิ้วเลยครับ อิ่มแล้วหนังตาก็เริ่มหย่อนนะครับค่ำนี้เราขอลาไปด้วยบรรยากาศรถไฟ Good Night ครับ ตอนนี้รถถึงเพชรบุรีแล้วครับเดี๋ยวพ่อเขาจะมี ข่าวช่อง 3 เมื่อเช้า มารับได้ แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลา 9:00 น แล้ว ชลบุรี รอบเย็นนะครับ มีกินแน่นอน เยอะๆเลย หลวงพ่อคงคาดว่าจะถึงประมาณ 13:00 น โมงครึ่ง จริงๆต้องประมาณ 10:30 น อ๋อ ของขึ้นรถไฟ หมอบอกว่าเป็นอะไร เหนื่อยมาก ก็จบไปแล้วนะครับทริปนั่งรถไฟไปปีนัง 5 วัน 4 คืนขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามดูมาตรงนี้นะครับไม่ได้ออกเดินทางแบบนี้เมื่อไหร่ หลายปีมันก็สนุกไปอีกแบบเกือบตกรถไปไม่ทันรถไฟไม่ได้เจอสิ่งที่หวังแต่มันก็ตื่นเต้นลุ้นตลอดการเดินทาง ทางวันนี้ได้ออกเดินทางแล้วนึกถึงบรรยากาศแบบนี้มากและหวังว่าทุกคนจะลุกออกมาเดินทางและมีความสุขไปกับเรา เรื่องราวระหว่างการเดินทางมากทำให้หัวใจเราเต้นแรงเสมอ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้าครับสวัสดี